ท่าโยคะเพิ่มคอลลาเจน เผยความงามจากภายใน ให้ผิวมีออร่าเปล่งปลั่ง

ในยุคที่ความงามและสุขภาพกลายเป็นหัวข้อที่คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม การหันกลับมาใช้วิธีธรรมชาติในการดูแลตนเองจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว การฝึกโยคะ ศาสตร์แห่งการเคลื่อนไหวมอบคุณประโยชน์มากมาย เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมไม่น้อย การฝึกนี้นอกจากช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย ยังส่งผลดีต่อผิวพรรณโดยตรง ทำให้ดูดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์จากภายใน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ท่าโยคะเพิ่มคอลลาเจน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพผิวให้มีชีวิตชีวา บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโยคะและแนะนำเคล็ดลับการดูแลตนเองที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพกายและใจที่ดีตลอดเวลา ไปพร้อมๆ กันเพื่อเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองอย่างยั่งยืน


คุณรู้หรือไม่ว่าโยคะมีประโยชน์อย่างไร?

คุณรู้หรือไม่ว่าโยคะมีประโยชน์อย่างไร

โยคะเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย แต่เป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายและจิตใจดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทั้งสองอยู่ในสภาวะที่สมดุลและสงบสุข นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการลดความเครียดและปรับปรุงความยืดหยุ่นของร่างกายแล้ว โยคะยังมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อต่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการชะลอวัยและการฟื้นฟูผิวพรรณ ทั้งโยคะเพิ่มความยืดหยุ่น ให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้เต็มที่

คลายความเครียด

การฝึกโยคะนั้นช่วยลดระดับคอร์ติซอลในร่างกาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสภาวะเครียด ด้วยการฝึกฝนนี้ จิตใจจะได้รับการผ่อนคลาย ระดับความวิตกกังวลและรู้สึกเครียดน้อยลง ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยให้ร่างกายชะลอการเกิดริ้วรอยและลดสัญญาณแห่งวัย การผ่อนคลายความเครียดผ่านการฝึกจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความงามและสุขภาพของผิวพรรณไปพร้อมๆ กัน

นอนหลับสบายขึ้น

การฝึกมีส่วนส่งเสริมให้คุณภาพการนอนดีขึ้น หลับลึกขึ้นและตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่น ขณะที่เราพักผ่อนเป็นช่วงเวลาทองที่ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ทำให้มีสภาพผิวพรรณที่สดใสและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้เมื่อคุณได้ปรังปรุงคัณภาพการนอน ยังช่วยลดอาการบวมและความหมองคล้ำใต้ดวงตา ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอในชีวิตประจำวัน

เพิ่มการสูบฉีดเลือดในหัวใจ

การฝึกนี้ยังเป็นกิจกรรมที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังทุกส่วนของร่างกายรวมถึงผิวหนังของเราด้วย การที่ร่างกายมีระบบเลือดไหลเวียนดี จะช่วยนำออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญไปยังเซลล์ผิวหนัง ส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนและฟื้นฟูได้ดีขึ้น ผลลัพธ์นั้นคือผิวที่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส และอ่อนเยาว์


ท่าโยคะเพิ่มคอลลาเจน ทำง่ายได้ผิวสวยขึ้น

โยคะเป็นมากกว่าการออกกำลังกายแบบธรรมดา แต่ศาสตร์เป็นการฝึกฝนที่ส่งผลลึกซึ้งไปยังร่างกายและจิตใจ ช่วยให้ทั้งสองอยู่ในสภาวะที่สมดุลและสงบสุข นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการลดความเครียดและปรับปรุงความยืดหยุ่นของร่างกาย

ท่าโยคะเพิ่มคอลลาเจน ทำง่ายได้ผิวสวยขึ้น

 

ท่าบิดตัว (Twist Poses)

ท่าบิดตัว (Twist Poses)

เป็นการบิดลำตัวเพื่อยืดกล้ามเนื้อลำตัว สะโพก และกระดูกสันหลัง ท่าเหล่านี้มีหลากหลายระดับความยาก เป็นท่าโยคะง่าย ๆ สำหรับมือใหม่**และผู้ที่มีประสบการณ์ เป็นหนึ่งในท่าโยคะที่ช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของเลือดและระบบย่อยอาหารได้อย่างดีเยี่ยม การเพิ่มการไหลเวียนของเลือดจะช่วยนำออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์ผิวหนัง ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจน

วิธีฝึก

  1. เริ่มต้นด้วยท่าง่าย เลือกท่าบิดตัวที่เหมาะกับระดับความยืดหยุ่นของคุณ ท่าที่ง่าย ๆ เช่น ท่านั่งบิดตัว (Ardha Matsyendrasana) หรือท่านั่งกอดเข่าบิดตัว (Marichyasana III)
  2. หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ
  3. บิดตัวช้า ๆ บิดตัวไปทางด้านข้าง โดยใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
  4. ค้างท่าไว้ประมาณ 5-10 วินาที
  5. คลายท่าอย่างช้าๆ
  6. ทำซ้ำท่าเดียวกันอีกด้าน

ท่าก้มหน้ายกสะโพก (Forward Bend Poses)

ท่าก้มหน้ายกสะโพก (Forward Bend Poses)

เป็นท่าที่ก้มหน้ายกสะโพกเป็นท่ายืดกล้ามเนื้อด้านหลัง สะโพก และขา ช่วยให้หัวใจอยู่สูงกว่าหัว ซึ่งเป็นการส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดไปยังใบหน้าและหัว การกระทำนี้สามารถช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวพรรณดูมีชีวิตชีวา

วิธีฝึก

  1. เริ่มต้นด้วยท่ายืน ยืนตัวตรง แยกเท้ากว้างประมาณสะโพก
  2. หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ
  3. ก้มตัวไปข้างหน้าจากสะโพก โดยให้หลังตรง
  4. วางมือบนพื้นข้างหน้าและเข่าเล็กน้อย
  5. ยกสะโพกขึ้น ดันสะโพกไปข้างหลัง
  6. ค้างท่าไว้ประมาณ 5-10 วินาที
  7. ค่อยๆ คลายท่าช้า ๆ

ท่าเรือ (Boat Poses)

ท่าเรือ (Boat Poses)

ท่าที่เน้นการยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง แกนกลางลำตัว สะโพก ต้นขา และหลัง ช่วยเสริมสร้างสมดุล ความแข็งแรง และความอดทน โยคะชะลอวัยท่าเรือไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผลิตคอลลาเจน

วิธีฝึก

1. เตรียมตัว

  • เริ่มต้นด้วยท่านั่งบนพื้น งอเข่า เท้าราบกับพื้น
  • วางมือข้างลำตัว นิ้วมือชี้ไปข้างหน้า
  • เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ดันสะโพกขึ้นเล็กน้อย

2. ยกขา

  • หายใจออก เหยียดเข่าตรง ยกขาขึ้นจากพื้น ทำมุม 45 องศากับพื้น
  • ปลายเท้าอยู่เหนือศีรษะ
  • ยืดแขนตรง ขนานกับพื้น
  • ฝ่ามือหันเข้าต้นขา
  • เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง แกนกลางลำตัว สะโพก ต้นขา และหลัง
  • มองไปข้างหน้า

3. ค้างท่า

  • ค้างท่าไว้ประมาณ 5-10 วินาที
  • หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

4. คลายท่า

  • หายใจออก งอเข่า ค่อยๆ ลดขาลงสู่พื้น
  • คลายกล้ามเนื้อ

ข้อควรระวัง

แม้ว่าการฝึกฝนโยคะนั้นเหมาะสำหรับทุกคน แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด มีหลักการสำคัญที่ควรปฏิบัติเพื่อให้การฝึกฝนเป็นไปอย่างระมัดระวังและได้รับประโยชน์สูงสุด ดังต่อไปนี้

  1. ฟังเสียงของร่างกาย: การฝึกควรทำด้วยความรู้สึกสบายและไม่ฝืนร่างกายเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ ส่งเสริมความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ
  2. หยุดทันทีหากรู้สึกเจ็บ: หากในระหว่างที่ฝึกแล้วรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายใจจากท่าโยคะใดๆ ควรหยุดทำท่านั้นทันที และค่อยๆ คลายตัวออกจากท่าดังกล่าว เนื่องจากการรู้สึกเจ็บปวดอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น
  3. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาสุขภาพ: ก่อนเริ่มต้นฝึกโยคะหากคุณมีโรคประจำตัว เช่น มีปัญหาเรื่องกระดูกหลัง, ความดันโลหิตไม่ปกติ, หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ควรปรึกษากับแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับท่าโยคะที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงท่าที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

การกินช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน

การกินช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน

การดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งนั้น ไม่ได้มีแค่การฝึกโยคะเพียงอย่างเดียว แต่การเลือกทานอาหารที่สมดุลและอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในการผลิตคอลลาเจนก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ควรใส่ใจเช่นกัน เรามาดูกันว่ามีอาหารประเภทไหนบ้างที่ควรรวมอยู่ในแผนอาหารประจำวันของคุณ

วิตามินซี

สารอาหารนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้กับผิวของเราด้วย ลองเพิ่มผลไม้และผักสดๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม, กีวี, มะเขือเทศ, และผักใบเขียว เข้าสู่อาหารประจำวันของคุณ เพื่อผิวที่ดูมีสุขภาพดี

กรดอะมิโน

กรดอะมิโนต่างๆ เช่น ไลซีนและโพรลีน นั้นเป็นองค์ประกอบหลักของคอลลาเจน การรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ, ปลาทะเล, ถั่ว, และไข่ ไม่เพียงช่วยให้คุณได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็น แต่ยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายอีกด้วย

แร่ธาตุสังกะสี

สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทไม่เพียงแต่ในการผลิตคอลลาเจน แต่ยังช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง อาหารที่เปี่ยมไปด้วยสังกะสี เช่น เนื้อแดง, หอยนางรม, และเมล็ดธัญพืช เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนให้กับผิวของคุณ


การฝึกโยคะเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยให้ใจเราสงบและทำให้ร่างกายแข็งแรง มีประโยชน์ในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะท่าโยคะที่เน้นการบิดตัว, ท่ายกสะโพก และท่าเรือ ไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนในร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้ระบบการหมุนเวียนของเลือดและระบบย่อยอาหารของให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยในการปรับปรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณไม่เพียงแต่ดูดีจากภายนอก แต่ยังแข็งแรงจากภายในด้วย


คำถามที่พบบ่อย

1. โยคะสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร?

โยคะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการหมุนเวียนของออกซิเจนไปยังเซลล์ผิวหนัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตคอลลาเจนอย่างดี

2. ท่าโยคะที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนคืออะไร?

ท่าที่เราแนะนำฝึกฝน ได้แก่ Twist , Forward Bend และBoat ซึ่งเป็นท่าโยคะที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ดีและเห็นผลชัดเจน

3. การฝึกโยคะมีประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากการมีผิวพรรณที่สวยงามหรือไม่?

นอกจากส่งเสริมเรื่อความงามและรูปร่างที่สมส่วนแล้ว โยคะช่วยลดความเครียด, ปรับปรุงการนอนหลับ, และส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี

4. ควรฝึกโยคะเท่าไหร่ถึงจะเห็นผลในเรื่องส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน?

การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวันละครั้งหรือสัปดาห์ละหลายครั้ง สามารถช่วยเห็นผลในการผลิตคอลลาเจนและปรับปรุงสุขภาพผิวได้ในระยะยาวแน่นอน


อ้างอิง

  1. Swati Chaturvedi, “Yoga for beautiful and glowing skin,” Hindustan Times, June 22, 2021, https://www.hindustantimes.com/lifestyle/health/yoga-for-beautiful-and-glowing-skin-101624381841784.html.
  2. “Breathing to younger skin: ‘reversing the molecular mechanism of skin aging with yoga’” NIH, May 09, 2016, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5137887/.
  3. Pam Moore, “9 Best Yoga Poses For Beginners” Forbes, August 16, 2023, https://www.forbes.com/health/fitness/best-yoga-poses-for-your-health/.

แชร์บทความ :

Facebook
Twitter

แชร์บทความ :

Facebook
Twitter

เนื้อหาบทความ