โยคะช่วยอะไร ? เผยเหตุผล 10 ข้อ ทำไมโยคะถึงมีประโยชน์
ในปัจจุบันนี้ พวกเราทุกคนล้วนแล้วแต่เฟ้นหาวิธีออกกำลังกาย รวมทั้งหนทางทุกวิธีที่จะทำให้สุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ รวมไปถึงการทานอาหารเสริมที่จะช่วยให้สุขภาพดี ซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ ยิ่งไปกว่านั้นคนในวัยทำงาน ก็กำลังมองหาวิธีออกกำลังกายให้สุขภาพดี แต่การออกกำลังกายที่หนักเกินไป ก็ซ้ำไปในเรื่องความเหนื่อยล้าจากการทำงานเข้าไปอีก สำหรับวันนี้พวกเราจะขอแนะนำ การออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้อย่าง “การเล่นโยคะ” ใช่แล้ว เจ้าสิ่งนี้คือการออกกำลังกาย ที่จะช่วยให้คุณสุขภาพดี พร้อมทั้งยังมีผลต่อสภาพจิตใจของเราให้ดีขึ้นได้อีกด้วย วันนี้พวกเราจะมาดูกันว่า โยคะช่วยอะไร พร้อมทำความรู้จักกับวิธีออกกำลังกายแบบนี้มากขึ้น รวมทั้งประโยชน์ที่แท้จริงจากการเล่น “โยคะ” ที่คุณจะได้รู้ว่า มันมีข้อดีมากกว่าที่คุณคิด
การเล่นโยคะ คืออะไร
ศาสตร์โบราณ ที่มีการเกิดในประเทศอินเดียกว่า 5 พันปีที่ผ่านมา ถูกเรียกว่า “โยคะ” โดยคำนี้ จะหมายถึง ร่างกาย จิตใจ รวมทั้งลมหายใจเข้าด้วยกัน ดังนั้นแล้วการฝึกโยคะ จึงเป็นการรวมกาย กับ ใจ เข้าด้วยกัน เปรียบเทียบกันง่าย ๆ ก็คือ เหมือนกับเรานั่งสมาธินั่นเอง แต่การจะทำแบบนี้ได้ ต้องมีการผสานกันให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างที่บอก เพื่อให้ความสมดุลเกิดขึ้นในร่างกายขอเรา เพราะเมื่อเรามีร่างกายที่สมดุล รวมทั้งจิตใจที่สงบ มั่นคง ก็จะช่วยยกระดับ กาย และ ใจ ให้สูงขึ้นอีกด้วย ดังนั้น มารู้จักความเป็นมาของโยคะก่อนฝึกเล่น ประวัติการเกิดโยคะ กันก่อน
นี่แหละคือศาสตร์โบราณ ที่จะทำให้เราได้มองเห็นถึงความสร้างสรรค์ การฝึก “โยคะ” เราเองนั้นจะต้องมีสติกับร่างกายที่สัมพันธ์กันตลอดเวลา จึงต้องเกิดการผสานสมาธิ ผสานกับลมหายใจ จึงเกิดเป็นสมาธิ การทำต่อไปเรื่อย ๆ ทำทุกวัน จะเกิดความสมดุลในร่างกายอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย ในหมู่คนที่ฝึก มักจะบอกต่อ หรือ ออกมาพูดถึงว่า การเล่นโยคะ คือสิ่งที่ดีเหมือนกับการออกกำลังกายนั่นเอง
สำหรับในปัจจุบัน “โยคะ” เป็นศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ได้เผยแพร่ออกจากประเทศอินเดีย ไปสู่ตะวันตกรวมทั้งในประเทศไทยเอง ก็มีสถาบันโยคะวิชาการ ที่เป็นผู้บุกเบิกนำโยคะ มาเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไปด้วย นี่แหละคือที่มาของคำว่า “การเล่นโยคะ” ที่จะช่วยยกระดับจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี
รู้จัก ‘โยคะ’ และสิ่งที่จะได้รับ
โยคะพื้นฐาน คือ การสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย ผสานกับจิตใจ อย่างที่บอกไปข้างต้น ซึ่งการรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ประเด็นสำคัญก็คือ การฝึกโยคะ จะประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ 3 ประการ นั่นก็คือ
- การออกกำลังกาย การฝึกท่าโยคะ
- การหายใจ ลมปราณ
- การทำสมาธิ
นี่แหละคือองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งการฝึกท่าโยคะ จะเป็นการกระตุ้นอวัยวะ รวมทั้งต่อมต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น หลังจากที่ประสบปัญหาปวดเมื่อย หรือมีอาการเรื้อรัง ก็สามารถที่จะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ รวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็ฝึกโยคะได้
3 สิ่งที่จะได้รับจากการฝึก “โยคะ”
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า “การเล่นโยคะ” คือการฝึกทั้งเรื่องของร่างกายที่จะนำมาผสานกับจิตใจ ทำให้ทุกอย่างในร่างกายสมดุลมากขึ้น แน่นอนว่า 3 สิ่งที่คุณเองจะได้รับจากการฝึกโยคะ ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้น หรือระยะยาว คุณเองจะรู้สึกได้เลยว่า โยคะช่วยอะไร โดยมี 3 สิ่งนี้ที่จะเปลี่ยนไป แตกต่างไปจากเดิม
- การฝึกโยคะ จะได้การรวมจิต และกาย การมีสติรู้อยู่ตลอดเวลา จะเป็นเรื่องที่ดีกับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่ง คุณแม่บ้าน การมีสติกับการรวมกายและจิตเข้าด้วยกัน จะทำให้รู้ว่า เรากำลังทำอะไร มีเป้าหมายประจำวัน มีการย้ำคิด มีการไตร่ตรองทุกครั้ง
- การฝึกโยคะ จะได้ความสมดุล สิ่งที่จะได้จากการฝึกโยคะ นอกจากการมีสติกับร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ความสมดุลจะเกิดขึ้นภายในร่างกาย รวมไปถึงตัวเองที่มีระบบร่างกายที่ดี อะไร ๆ ก็ดีตามไปด้วย
- การฝึกโยคะ ได้การพัฒนาจิตใจ นี่แหละคือข้อสำคัญของการฝึกโยคะ คุณเองจะได้ยกระดับจิตใจของตัวเองได้แน่นอน คือความมีสมาธิ มีความนิ่ง จิตใจสงบ การมองเห็นปัญหา และการแก้ไขปัญหาจะง่ายขึ้น เพราะคุณจะมีสติมากขึ้นนั่นเอง
6 ข้อที่ควรรู้ กับเทคนิคพื้นฐานโยคะ
หลังจากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ที่มาของคำว่าโยคะ รวมทั้งการได้ประโยชน์ที่แท้จริงกันไปแล้ว คราวนี้จะขอบอกเทคนิคพื้นฐาน การโยคะที่ดีกับ 6 ข้อสำคัญ ที่คุณเองจะต้องรู้ เมื่อกำลังคิดจะเข้าวงการ “การเล่นโยคะ” นั่นเอง ส่วนวิธีไหนบ้างนั้นติดตามกันต่อได้เลยกับเทคนิคต่อไปนี้
- อาสนะ คำว่า อาสนะ คือ การฝึกฝนร่างกาย ด้วยกระบวนท่าต่าง ๆ แน่นอนว่าท่าที่บอกนี้ คือท่าที่พวกเราเคยเห็น หรือคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ตัวเองเช่น ท่าศพ ท่างู ท่านั่งเพชร เป็นต้น ซึ่งแต่ละท่าจะได้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยการทำอาสนะนั้น จะทำให้ผู้ฝึก รู้สึกสบายกาย จิตใจนิ่ง มีสติกับการใช้จิต พร้อมรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของร่างกายได้อย่างดี
- ปราณยามะ คำว่า ปราณยามะ คือ การควบคุมลมหายใจ จะมีสติรับรู้ลมหายใจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อหายใจเข้าก็ทำให้รับรู้ได้ว่าหายใจ หรือ การหายใจออกก็รู้ตัวเอง เรียนรู้ โยคะแบบปราณยามะ ทำแล้วส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
- พันธะ / มุทรา คำนี้ คือ การเกร็งแล้วคลายกล้ามเนื้อในบางส่วนของร่างกาย ซึ่งจะใช้จิตในการรับรู้ทุกการเกร็ง ซึ่งการคลายกล้ามเนื้อในส่วนนั้น จะรู้สึก รวมทั้งจิตใจด้วยเช่นกัน
- กริยา คำนี้ คือ คำเรียกของภาษาคนเล่นโยคะ คือ การชำระล้าง หรือจะพูดได้ว่าเป็นการฝึกความอดทน การเรียนรู้ตนเองให้กว้างขึ้น แน่นอนว่านี่คือการที่เราจะเข้าใจตนเอง
- สมาธิ สำหรับคำนี้ คือ การกำหนดจิตให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำท่า การกำหนดลมหายใจ การเกร็งกล้ามเนื้อ ซึ่งในการฝึกโยคะ หากไม่สามารถกำหนดจิตได้ จะเท่ากับว่าการฝึกโยคะของคุณล้มเหลวไปแล้ว
- การฝึกอบรมทัศนคติ เทคนิคสุดท้าย คือ การฝึกอบรมทัศนคติ เป็นการฝึกให้มีศีล มีวินัยในการปฏิบัติการฝึก ตลอดจนความคิดที่มีต่อการฝึกโยคะ ที่จะต้องเป็นไปในทางเดียวกัน แน่นอนว่าจะต้องมีศีล หรือข้อสัญญาในการฝึกทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ที่แท้จริงของการฝึก
8 ข้อที่ควรปฏิบัติของการเล่นโยคะ
การเล่นโยคะ จะมีข้อควรปฏิบัติ 8 ประการ ที่เข้มงวด ซึ่งผู้ที่ฝึกจะต้องยึดมั่นข้อควรทำทั้งหมดนี้ เพื่อบรรลุผลเกี่ยวกับการฝึกโยคะให้ได้ผล รวมทั้งจะเห็นผลได้เร็ว โดยทั้งหมดจะมีความคล้ายกับเทคนิคพื้นฐาน แต่ครั้งนี้จะอธิบายให้ลึกลงไปว่าทั้ง 8 ข้อนี้ สำคัญกับการฝึกแค่ไหน โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
- ยามะ หรือ ศีล 5 การฝึกโยคะ จะต้องเริ่มจากการถือศีล 5 ที่ชาวพุทธ ทราบกันเป็นอย่างดี แน่นอนว่าจะมี อหิงสา ไม่ลักทรัพย์ ไม่พูดปด ประพฤติพรหมจรรย์ รวมทั้งไม่ยึดมั่นถือมั่นกับวัตถุมากเกินไป นี่แหละคือข้อที่การฝึกโยคะต้องเริ่มจากการถือศีลเป็นจุดเริ่มต้น เป็นพื้นฐานเริ่มต้นของมนุษย์
- นิยามะ หรือ วินัย 5 เมื่อมีศีล 5 ข้อแล้ว เราก็ต้องมีวินัย 5 ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้แก่ อดทน สันโดษ ชำระกายใจให้บริสุทธิ์ หมั่นศึกษาตนเอง และมีศรัทธา
- อาสนะ หรือการดูแลร่างกาย เมื่อจิตใจของเรานั้น ตั้งอยู่ในศีล วินัย ก็ต้องมีการดูแลตัวเอง เกี่ยวกับการปรับสมดุลให้กับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยมีขั้นตอนการฝึกก็คือ การเตรียมพร้อม ฝึกท่าอาสนะ ปิดท้ายด้วยการผ่อนคลาย
- ปราณยามะ หรือการฝึกลมหายใจ เมื่อร่างกายของเรานั้น มีความสมดุลเป็นปกติแล้ว ก็เตรียมตัวที่จะฝึกควบคุมลมหายใจกันต่อ ด้วยเหตุผลเพื่อควบคุมกลไกระบบประสาทอัตโนมัติของตัวเอง นั่นก็คือ การฝึกลำดับขั้นตอนของลมหายใจ เข้าใจระบบหายใจของตัวเอง มีสติ หายใจช้า หายใจเร็ว เราจะรับรู้ได้ตลอดเวลา
- ปรัทยาหาระ หรือสำรวมอินทรีย์ ในข้อที่ 5 ควรปฏิบัติ หลังจากที่ร่างกายเริ่มนิ่ง ลมหายใจสงบ สามารถควบคุมได้ ต่อไป เป็นการฝึกการควบคุมอารมณ์ ที่มักจะแปรปรวนไปตามสิ่งภายนอก คุณจะต้องควบคุมประสาททั้ง 5 ได้ นั่นก็คือ รูป รส กลิ่น เสียง และ สัมผัส นั่นเอง
- ธารณะ หรือการเพ่งจ้อง คือ เมื่อมีอารมณ์ที่มั่นคง จึงจะเริ่มอบรมจิต สำหรับ ธารณะ คือ การฝึกอบรมจิตให้นิ่ง เมื่อจิตนิ่งสงบ จะเป็นจิตที่มีประสิทธิภาพดี คิดอะไร ก็มองเห็นทางสำเร็จโดยง่ายขึ้น
- ฌาน คือ จิตที่ผ่านการอบรมอย่างสม่ำเสมอ เมื่ออารมณ์ จิต ร่างกาย มีความควบคุมอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้จิตได้รับรู้เป็นตามความเป็นจริงของโลก ไม่หลงไปในทางที่ผิด
- สมาธิ ในหลักของพระพุทธศาสนาได้สอนเอาไว้ว่าสมาธิคือสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิต แต่การฝึกโยคะจะแตกต่างออกไปที่ การมีสมาธิคือ การรวมใจได้เป็นหนึ่งเดียว หลุดพ้น เป็นอิสระจากการผูกมัดทั้งปวง หรือจะเรียกได้ว่าเกิดเป็นภาวะโมกษะ
จะเห็นได้ว่าพวกเราได้รวบรวม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการฝึกโยคะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่มาของโยคะ มีต้นกำเนิดมาได้อย่างไร รวมไปถึงข้อปฏิบัติพื้นฐานที่จะเล่นโยคะต้องรู้ รวมทั้งประโยชน์ที่แท้จริงของการฝึกตัวเองแบบนี้ ซึ่งวันนี้พวกเราได้รวบรวม 10 ประโยชน์ของโยคะ มาบอกต่อกันด้วยซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านกันต่อด้านล่างได้เลย
10 ประโยชน์ของโยคะ
สิ่งนี้ที่ใครหลายคนต้องการจะรู้ ว่าเราจะเล่น “โยคะ” ไปเพื่ออะไร แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง วันนี้พวกเราจึงได้รวบรวม 10 ประโยชน์ของโยคะ ที่ต้องบอกเลยว่าเห็นผลได้จริงแน่นอน อย่างที่ทุกคนรู้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการฝึกพื้นฐานของร่างกาย จิตใจ ที่ต้องผสานกัน แต่สิ่งที่ได้มากกว่านี้แน่นอน
1. ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
การเล่นโยคะ หรือฝึกโยคะ จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดภายในร่างกายดีขึ้น เนื่องจากตัวเราสามารถควบคุมร่างกาย จิตใจ รวมทั้งการฝึกที่จะมีการเกร็ง คลาย ในส่วนของกล้ามเนื้อจุดต่าง ๆ ดังนั้นแล้ว ระบบไหลเวียนเลือด ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และมีการเตรียมพร้อมต่อการซ่อมแซมร่างกายอยู่ตลอดเวลา เมื่อหลอดเลือดมีความพร้อมที่จะขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. ข้อต่อยืดหยุ่นดี แข็งแรงขึ้น
ไม่ว่าคุณเองจะอายุเท่าไหร่ เมื่อได้ฝึกโยคะ ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อ จะทำงานประสานกันได้ดีมากขึ้น คล้ายกับการวอร์มก่อนออกกำลังกาย แต่การฝึกแบบมีขั้นตอน จะทำให้คุณเคลื่อนไหวได้คล่องมากกว่าเดิมแน่นอน
3. ทรวดทรงดีขึ้น
สำหรับคุณผู้หญิง เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะการโยคะ คือ การทรงตัว ทำให้มีดูมีรูปร่างที่เพรียวมากขึ้น อีกทั้งเรื่องของบุคลิกที่จะทำให้คุณดูดีขึ้นด้วย
4. ลดอาการปวดเมื่อย จากการใช้ชีวิต
การทำงานอันแสนหนักในชีวิตประจำวัน หรือการเล่นกีฬา อาจจะมีการได้รับบาดเจ็บมาในแต่ละวัน เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมต่อสิ่งเหล่านี้ การฝึกโยคะ จะช่วยให้คุณลดอาการปวดเมื่อยได้
5. ลดความเครียด จากการใช้ชีวิต
เมื่อมีสติ ควบคุมอารมณ์ พร้อมทั้งแยกแยะปัญหา หรือการหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างดีแล้ว นี่แหละคือผลดีของการฝึกโยคะ เพราะในชีวิตของคุณจะมองปัญหาไม่ใช่เรื่องที่เครียดอีกต่อไป
6. สมาธิ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความสำเร็จ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรามุ่งมั่นอย่างเดียว การฝึกโยคะก็จะทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้นในชีวิต ซึ่งจะเห็นได้ชัดในกรณีคนที่ไม่ค่อยได้คิดถี่ถ้วน เมื่อเล่นโยคะ ทำให้คิดได้ดีขึ้น มีสมาธิจดจ่อได้ดีขึ้นนั่นเอง
7. ความสามารถในการทรงตัวดีขึ้น
บางคนมีปัญหาจริง ๆ เกี่ยวกับการทรงตัว หรือการรักษาสมดุลในร่างกาย การฝึกโยคะ จะมีท่าภูเขา ท่านักรบ ที่จะเน้นเรื่องการรักษาสมดุล ทรงตัว แน่นอนว่าจะทำให้คุณเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
8. เป็นคนใจเย็นลง ย้ำคิด ย้ำทำ
ประโยชน์ของโยคะในข้อนี้ อาจจะดูซ้ำกับข้อที่มีสมาธิ แต่สำหรับใครที่ใจร้อน หรือคิดว่าตัวเองใจร้อน ลองฝึกโยคะดู มันได้ผลจริง เพราะจะทำให้คุณคิดก่อนทำ คิดก่อนพูดเสมอ และกลายเป็นคนสุขุมมากขึ้น คนใจเย็นแต่มีสติ ก็น่านับถือเป็นอย่างมาก
9. บำบัดอาการ “ไมเกรน” และ โรคอื่น ๆ
อันที่จริงแล้วโยคะรักษาได้หลายโรคเลยทีเดียว แต่ที่เห็นได้ชัดคือ โรคไมเกรน ที่เกิดจากความเครียด พักผ่อนน้อย ร่างกายทำงานไม่สมดุล เมื่อได้ฝึกโยคะจะพบว่าอาการไมเกรนนั้นหายไป เพราะเราจะไม่เครียด อีกทั้งโรคอื่น ๆ ก็ยังไม่ถามหาด้วย
10. เพิ่มการมีสติ ปัญญาจึงเกิด
สติมา ปัญญาเกิด ซึ่งแน่นอนว่า การฝึกโยคะ จะทำให้คุณดูฉลาดขึ้น คิดได้เร็ว คิดได้รอบคอบกว่าผู้อื่น เนื่องจากเราเองมีการจัดลำดับความสำคัญมาแล้ว นี่แหละคือความอดทนที่สั่งสมมา จนเกิดเป็นคนที่มีจิตใจที่มั่นคง เข้มแข็ง มีสติดี
สำหรับทั้งหมดนี่ก็คือ ประโยชน์ของการเล่นโยคะ 10 ประการ ที่ได้พูดถึงไปแล้ว ส่วนเรื่องของที่มา หรือการทำความรู้จักกับ การออกกำลังกายในศาสตร์นี้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ฝึกในบ้านก็ยังได้ อีกทั้งในปัจจุบัน ผู้คนหันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น การเล่นโยคะ จึงเป็นประโยชน์มากสำหรับคนทุกวัย ฝึกได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยชรา แต่การฝึกก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายว่า พร้อมฝึกได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่าต้องมีใจรัก ถ้าไม่มีใจรักทางนี้ การฝึกแบบไหนก็ไม่ได้เห็นผลที่แท้จริง หวังว่าข้อมูลบทความนี้จะเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่บอกต่อกับทุกคนที่กำลังหันมาเล่นโยคะ หรือฝึกโยคะ บอกเลยว่าได้ประโยชน์หลายข้อจริง นี่แหละคือ เหตุผล 10 ข้อ ทำไมโยคะถึงมีประโยชน์
อ้างอิง
- โยคะ ศาสตร์ที่สามารถทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้. https://www.hsri.or.th/people/media/exercise/detail/5826